Sponsored Ads

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นั่งเครื่องบินแล้วหูอื้อ ทำไงดี ?

นั่งเครื่องบินแล้วหูอื้อ ทำไงดี ?

       โดยทั่วไปในเครื่องบินจะปรับระดับความดันไว้เทียบเท่ากับความดันบรรยากาศที่ความสูง 8,000 ฟุต โดยเฉลี่ย เพื่อให้ผู้โดยสารยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เพราะหากปรับความดันมากกว่านี้ โครงสร้างของเครื่องบินจะไม่สามารถรับได้
       แต่ตลอดการเดินทางโดยเครื่องบินนั้น ความดันอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างจึงอาจทำให้เกิดอาการปวดหู หูอื้อ ซึ่งมักเป็นตอนเครื่องบินร่อนลงมากกว่าตอนบินขึ้น ในช่วงเครื่องบินขึ้นความดันบรรยากาศนั้นจะลดลงเรื่อยๆ ปริมาตรอากาศในหูชั้นกลางจึงขยายตัวขึ้น ไปกดที่เยื่อแก้วหู ทำให้เกิดอาการหูอื้อ หรือปวดหู เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่เครื่องบินลดระดับลงความดันบรรยากาศภายนอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปริมาตรอากาศในหูชั้นกลางไม่ได้รับการปรับตัว เราก็จะมีอาการหูอื้อได้อีก ซึ่งอาการหูอื้อนั้นมักมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงอย่างกระทันหัน หรือในกรณีที่ผู้โดยสารเป็นหวัดขณะโดยสารเครื่องบิน หรือหลับขณะที่เครื่องบินทะยานขึ้นหรือลดระดับลง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหรือตื้อภายในหู ไม่สบายหูหรือได้ยินเสียงเบาลง

วิธีบรรเทาอาการปวดหูหรือหูอื้อ ทำได้ดังนี้
1.การหาว  เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะสามารถบรรเทาอาการหูอื้อได้ล

การหาว


2.การเกร็งคอ 


การเกร็งคอ

3.เคี้ยวหมากฝรั่ง เนื่องจากการขยับกรามทำให้การระบายอากาศในหูชั้นกลางดีขึ้น (แต่การเคี้ยวหมากฝรั่งทำให้กลืนลมเข้าไปในทางเดินอาหารมากขึ้น อาจทำให้ปวดท้องได้)

เคี้ยวหมากฝรั้ง ลดอาการหูอื้อ
4.กลืนน้ำลาย จะทำให้ท่อ Eustachian ที่อยู่ในหูถูกเปิดออก


การกลืนน้ำลาย



5.บีบจมูก ปิดปากให้สนิทและพยายามพ่นลมออกจากจมูกที่เราบีบ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้สามารถปรับความดันอากาศภายในหูให้เท่ากับภายนอกได้เป็นอย่างดี (Valsalva maneuver) แต่ไม่แนะนำให้ทำรุนแรง เนื่องจากอาจทำให้ปอด ไปกดที่เส้นเลือดใหญ่ด้านหลัง ทำให้เลือดไปเลียงสมองช้าลง และเกิดอาการเวียนศรีษะได้

การบีบจมูก และพ่นลมออกจากจมูก



ขอบคุณข้อมูลจาก CAAT สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ข้อมูลจากนิตยสาร 360 ํ ของ AIRASIA


วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สอนภาษาเขมร (สุรินทร์) หมวดการทำนา


สอนภาษาเขมร (สุรินทร์) หมวดการทำนา


                       (จูง กะ สวัสดี แม ออว บอง ประโอน กรบ กรบ คะเนีย) (แปลได้ว่า สวัสดี แม่ พ่อ พี่ น้อง ทุกๆคนครับ)   สวัสดีครับเพื่อนๆ ช่วงนี้อาจจะเห็นผมมาสอนภาษาเขมรบ่อยหน่อยน่ะครับ พอดีอยากจะเก็บความรู้และภาษาบ้านเกิดไว้ด้วย เพราะปัจจุบันนี้ น้องๆรุ่นใหม่ๆแถวบ้านพูดภาษาไทยกันเกือบหมดแล้ว กลัวภาษาบรรพบุรุษจะสูญหายในเร็ววัน อย่างน้อยจะได้บอกตัวเองว่า ผมเป็นคนที่ไหน เกิดที่ไหน เกิดมาพูดภาษาอะไร ไม่เคยที่จะอายในการพูดภาษาบ้านเกิด ก็ดราม่าตัวเองไปพอสมควรแระ เอาเป็นว่า อยากรักษาภาษาบ้านเกิดไว้ครับ  
                       ในวันนี้ก็เลยอยากจะสอนในหมวด เกี่ยวกับ การทำนา ทำไมถึงอยากสอนหมวดนี้ในวันนี้ 
ก็เพราะการทำนานี่แหละครับ ทำให้ผมโตและเรียนจนได้มาทำงานในทุกวันนี้ เอาเป็นว่ามาเรียนรู้กันเลยดีกว่าครับ  

                      การทำนานั้นจะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งจะได้แบ่งคำศัพท์ต่างๆ ออกไป 2 หัว หลักๆ ดังนี้ 
1.คำศัพนาม
2.คำกิริยา 
ดูเหมือนจะเป็นทางการไปหน่อย แต่ไม่ยากครับ ผมจะสอนเฉพาะคำที่ใช้กันบ่อยๆนะครับ มาเริ่มกันเลย

การทำนา ภาษาเขมรสุรินทร์พูดว่า เทอแซร ไม่ได้หมายถึงการ สร้างที่นาแต่อย่างใด แต่เป็นการทำกิจกรรมทางการเกษตรเพื่อให้เกิดผลผลิต นั่นก็คือ ข้าว (ภาษาเขมรเรียกว่า บาย) ที่เรารับประทานเป็นอาหารหลักนั่นเองครับ

1.คำศัพนาม ที่มีในการทำนา มีดังนี้
   -เราจำเป็นต้องมีคนทำนา คน ภาษาเขมรพูดว่า มนึ๊ แยกให้อ่านง่ายๆ ก็คือ มา นึ๊ หรือ มะ นึ๊
   -เราจำเป็นต้องมี นา หรือที่นา ไว้ทำนา  นา หรือ ที่นา ภาษาเขมรพูดว่า แซร   แยกคำอ่าน คือ ซ แร 
   -ที่นา จำเป็นต้องมีคันนาคั่นระหว่างนา ซึ่ง คันนา ภาษาเขมรพูดว่า พลือ อ่านว่า พะ ลือ หรือ 
พ ลือ พูดยาวๆ ก็คือ พลือ แซร สามารถพูดได้ทั้งสองอย่าง เป็นอันเข้าใจตรงกันครับ
   -การทำนาในสมัยก่อนนั้นจะทำนาได้จะต้องมีน้ำในนา ซึ่งถ้าไม่มีน้ำจะดำนาลำบาก น้ำในนา ภาษาเขมรพูดว่า ตึแซร  อ่านว่า  ตึ ซ แร
   -การไถนาในสมัยก่อน จำเป็นต้องใช้สัตว์ในการไถนา สัตว์ที่คนสุรินทร์นิยมใช้ไถนาคือ กระบือหรือควาย และสัตว์อีกชนิดที่ใช้ไถนาได้เช่นกันก็คือ โค หรือ วัว   ซึ่ง  ควาย ภาษาเขมรพูดว่า กระแบย อ่านได้ดังนี้  กระ แบย   ส่วน วัว นั้น พูดว่า กู   ครับ
   -อุปกรณ์ที่ใช้ไถนา คือ คันไถ ซึ่งภาษาเขมรพูดว่า ภาล  วิธีพูดให้แน้นที่ ล ลิง กระดกลิ้นลากเสียงนิดหนึ่งครับ 
   -เมื่อไถนาแล้วก็ต้องใช้คราดปรับพื้นที่ก่อนทำนา คราด ภาษาเขมรพูดว่า รเนื๊อะ อ่านว่า ระ เนื๊อะ หรือ รา เนื๊อะ ก็ได้
   -หลังจากเราคราดเสร็จแล้วนั้นก็ถึงเวลา ลงมือดำนา แต่การดำนาได้นั้นจะต้องมีต้นกล้า ซึ่ง ต้นกล้า
ภาษาเขมรพูดว่า สน๊าบ  อ่านว่า สะ น๊าบ หรือ ส น๊าบ ก็ได้
   -เมื่อเราทำนาไปสักพักต้นข้าวต้องการสารอาหารในการหล่อเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งนั่นก็คือ ปุ๋ย สมัยก่อนนั้นไม่ได้ใช้ปุ๋ยแคมีแต่อย่างใด จะใช้มูลสัตว์ เช่น มูลวัว มูลกระบือ ซึ่งเรียกรวมๆ ก็คือปุ๋ย ครับ 
มูลวัว ภาษาเขมรพูดว่า อัจกู  อ่านว่า อัจ กู  ส่วน มูลกระบือ เรียกว่า อัจกระแบย 
อ่านว่า  อัจ กระ แบย   ปุ๋ย ภาษาเขมรพูดว่า จีร ครับ
   -พอกล้าข้าวที่เราดำเจริญเติบโต เราเรียกว่า ต้นข้าว ซึ่งภาษาเขมรพูดว่า เดิมซรอว อ่านว่า 
เดิม ซา รอว  
   -เมื่อต้นเข้าสะสมอาหารและต้นข้าวเกิดอาการท้อง คล้ายๆคนครับ ต้นจะพองๆ กลางลำต้นไปปลายยอดข้าว ภาษาเขมรเรียกว่า เพิม แปลตรงๆ ก็แปลว่า ตั้งท้อง ครับ
   -เมื่อต้นข้าวออกรวงสวยงามเป็นผลผลิตและสุกพร้อมเก็บเกี่ยว คือ รวงข้าวสุก ซึ่งไม่ได้สุกแบบที่เกิดจากการหุงต้มนะครับ สุก ที่เกิดจากแก่ หรือ งอม นั่นเองครับ  ภาษาเขมรพูดว่า ซรอวตุม  
อ่านว่า ซ รอว ตุม
   -เมื่อรวงข้าวสุกและทำการเก็บเกี่ยวและทำการนวดเสร็จเรียบร้อย มี 3 อย่างที่แบ่งออกมาจากการเก็บเกียวและทำการนวดเสร็จ ก็คือ 1.ข้าวเปลือก ภาษาเขมรพูดว่า ซรอว อ่านว่า ซ รอว  2.ฟาง ภาษาเขมรพูดว่า จเมิง อ่านว่า จะ เมิง หรือ จา เมิง ก็ได้ 3.ข้าวเปลือกเมล็ดที่ลีบ เรียกว่า ซแนย อ่านว่า 
ซา แนย หรือ ซะ แนย 
   -เมื่อได้ข้าวเปลือกแล้วเราจะต้องเอาข้าวเปลือกใส่กระสอบ กระสอบ ภาษาเขมรพูดว่า เบา 
   -เมื่อทำการนวดข้าวแล้วจะต้องมีที่เก็บข้าวเปลือกนั่นก็คือ ยุ้งข้าว ภาษาเขมรพูดว่า ยุง
   -หากเราจะนำข้าวมาหุงได้นั้นจะต้องทำการสีข้าวเพื่อให้ได้เป็นข้าวสารออกมาก่อน ซึ่ง ข้าวสาร ภาษาเขมรพูดว่า อังกอร์  อ่านว่า อัง กอร์ 
   -เมื่อทำการหุงข้าวสารสุกแล้ว จะเกรียกข้าวสารที่สุกว่า ข้าว นั่นเองครับ ภาษาเขมรพูดว่า บาย
มาดูวีดีโอประกอบการพูดกันด้วยน่ะครับ เพื่อการพูดออกเสียงที่พูก



นี่เป็นคำศัพท์บางส่วนเท่านั้นที่นิยมใช้กันครับ ซึ่ง ต่อไปจะเป็นคำกิริยา ซึ่งเมื่อเราจะใช้ในการพูดได้นั้น จะต้องมี ประทาน กิริยา และกรรม ซึ่ง คำศัพท์ด้านบนนี้ จะเป็นทั้ง ประทาน และกรรมก็ได้ครับ ต่อไปมาเรียนคำกิริยากันต่อเลยครับ

2.คำกิริยา ในการทำนา มีดังนี้
   -ทำนา ภาษาเขมรพูดว่า เทอร์แซร  อ่านว่า เทอร์ ซ แร
   -ไถนา ภาษาเขมรพูดว่า ปจูรแซร อ่านว่า ปา จูร ซ แร
   -คราด ภาษาเขมรพูดว่า เรื๊อะ  
   -ถอนกล้า ภาษาเขมรพูดว่า ด๊อะสน๊าบ  อ่านว่า ด๊อะ ส น๊าบ
   -ดำนา ภาษาเขมรพูดว่า สตูงแซร อ่านว่า สะ ตูง ซ แร
   -ใส่ปุ๋ย ภาษาเขมรพูดว่า ดะจีร  อ่านว่า ดะ จีร
   -เกี่ยวข้าว ภาษาเขมรพูดว่า โจรดซรอว อ่านว่า จ โรด ซ รอว
   -นวดข้าว ภาษาเขมรพูดว่า บ๊อะสรอว  
   -กรอกข้าวเปลือก ภาษาเขมรพูดว่า จร๊อะซรอว อ่านว่า จ ร๊อะ ซ รอว
   -สีข้าว ภาษาเขมรพูดว่า เก็นซรอว  อ่านว่า เก็น ซ รอว
   -หุงข้าว ภาษาเขมรพูดว่า ตนำบาย อ่านว่า ตา นำ บาย
แถมให้อีกคำครับ ทานข้าว ภาษาเขมรพูดว่า โฮบบาย อ่านว่า โฮบ บาย หรือจะใช้ ซี บาย ก็ได้ครับ
มาดูวีดีโอประกอบการพูดไปด้วยนะครับ




หวังว่าโพสต์นี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยน่ะครับผม หากมีข้อสงสัย หรือมีข้อเสนอแนะ สามารถคอมเมนต์ไว้ใต้โพสต์ หรือเข้าไปดูวีดีโอเพิ่มเติมได้ที่ช่อง YOUTUBE ของผมนะครับ
ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและรับชมครับผม







วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ภาษาเขมร สุรินทร์ (หมวด อาหาร) By MushroomBoy


ภาษาเขมร (สุรินทร์) หมวด อาหาร 



                 สวัสดีครับ วันนี้ผมนึกอย่างไรก็มิรู้ได้ อยากจะสอนภาษาเขมรบ้านตัวเองซ่ะงั้น  555+ 
เอาเป็นว่าอยากสอนละกันครับ วันนี้อยากจะสอนเกี่ยวกับหมวดอาหาร ครับ เดี๋ยวมาดูกันว่าคำภาษาเขมรสุรินทร์หมวดอาหารมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

   1.คำแรกเลยครับ ที่เราต้องกินทุกวัน อย่างแน่นอนครับ  คือ ข้าว   ภาษาเขมรสุรินทร์ พูดว่า บาย  
ยกตัวอย่างประกอบ เช่น ถ้าเราจะเรียกใครมาทานข้าว เช่น มาทานข้าวด้วยกัน จะใช้ประโยคว่า 
โมโฮบบายจุมคเนีย   แยกเป็นคำได้ดังนี้  โม โฮบ บาย จุม คะ เนีย ซึ่งแปลแต่ละคำได้ดังนี้
โม = มา  / โฮบ = รับประทาน หรือทาน  บาย = ข้าว  / จุม = ด้วย / คะเนีย = กัน หรือ เพื่อนกัน ด้วยกัน เดี๋ยวมาดูวีดีโอประกอบกันเลยครับ



   2.กับข้าว  มีข้าวก็ต้องมีกับข้าวครับ เราจะทานข้าวปล่าวๆ ก็กะไรอยู่นะครับ  ซึ่ง กับข้าว ภาษาเขมรสุรินทร์ พูดว่า มโฮบ หรือ มาโฮบ แล้วแต่พื้นที่จะพูดอย่างไรครับ ยกตัวอย่างการพูดเป็นประโยคว่า ได้กับข้าวอะไรทานกับข้าว  จะพูดว่า บานมโฮบอยโฮบบาย  แยกเป็นคำได้ดังนี้
บาน มโฮบ อย โฮบ บาย ซึ่งแปลแต่ละคำได้ดังนี้ บาน = ได้  / มโฮบ = กับข้าว /  อย = อะไร / 
โฮบ = ทาน,รับประทาน,กิน / บาย = ข้าว   เดี๋ยวมาดูวีดีโอประกอบการพูดออกเสียงไปด้วยกันครับ 



3. ขนม  เมื่อทานข้าวแล้วก็ต้องมีของทาน ตัวอย่างเช่นขนมนั่นเอง ขนมมีหลายชนิดเหลือเกิน แต่ผมเอาคำรวมๆ ว่า ขนม ละกันครับ ซึ่ง คำว่า ขนม ภาษาเขมรสุรินทร์ พูดว่า นม  ยกตัวอย่างการพูดสัก 2 ประโยคละกันครับ ประโยคแรก ได้ขนมอะไรทาน ภาษาเขมรพูดว่า บานนมอยโฮบ  ซึ่งแยกคำได้ดังนี้
บาน นม อย โฮบ แปลความหมายแต่ละคำดังนี้  บาน = ได้ / นม = ขนม / อย = อะไร / โฮบ = ทาน รับประทาน กิน  ยกตัวอย่างประโยคที่ 2 ครับ ทานขนมอะไรอยู่  ภาษาเขมรสุรินทร์พูดว่า  โฮบนมอยโนว
แยกแต่ละคำดังนี้ โฮบ นม อย โนว  แปลความหมายแต่ละคำดังนี้ โฮบ = ทาน,รับประทาน,กิน / 
นม = ขนม / อย = อะไร / โนว = อยู่   มาดูวีดีโอประกอบการพูดออกเสียงไปด้วยกันครับ


4. ผลไม้ เมื่อทานข้าว ทานขนม ก็ต้องมี ผลไม้  ซึ่งผลไม้ ภาษาเขมรสุรินทร์ พูดว่า พแลเฌอ หรือ  พแลเชอ นั่นเองครับ แยกคำอ่าน ได้ดังนี้ พะ แล เฌอ  ยกตัวอย่างประโยคสัก 2 ประโยค
ประโยคแรก พวกเราไปซื้อผลไม้มาทาน  ภาษาเขมรสุรินทร์พูดว่า  โพงยืงโตวติงพแลเฌอโมโฮบ แยกคำได้ดังนี้ โพง ยืง โตว ติง พแลเฌอ โม โฮบ  ความหมายของแต่ละคำแปลได้ดังนี้  โพง = พวก /  ยืง = เรา / โตว = ไป / ติง = ซื้อ / พแลเฌอ = ผลไม้ / โม = มา / โฮบ = ทาน,รับประทาน,กิน   
ยกตัวอย่างอีกประโยค ได้ผลไม้อะไรมาทาน เป็นประโยคคำถาม ภาษาเขมรสุรินทร์พูดว่า
บานพแลเฌออยโมโฮบ  แยกคำได้ดังนี้ บาน พแลเฌอ อย โม โฮบ ความหมายของแต่ละคำมีดังนี้
บาน = ได้ / พแลเฌอ = ผลไม้ / อย = อะไร / โม = มา / โฮบ = ทาน, รับประทาน , กิน  มาดูวีดีโอการออกเสียงประกอบกันนะครับผม



5.น้ำ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องดื่ม แล้วภาษาเขมรสุรินทร์คำว่าน้ำ จะพูดอย่างไรหล่ะ คำว่า น้ำ 
ภาษาเขมรสุรินทร์ พูดว่า ตึ หรือ ตึ๊ก  ยกตัวอย่างประโยคสัก 2 ประโยคอีกเช่นเคยครับ
ประโยคแรก ถ้าจะพูดว่า ผมอยากดื่มน้ำ ภาษาเขมรสุรินทร์พูดว่า ขมาดจองเพ๊อะตึ หรือ 
ดิฉันอยากดื่มน้ำ ต้องพูดว่า ขยมจองเพ๊อะตึ  แยกคำได้ดังนี้ ขมาด จอง เพ๊อะ ตึ และ ขยม จอง เพ๊อะ ตึ  แปลแต่ละคำได้ดังนี้ ขมาด = ผม / ขยม = ดิฉัน / จอง = อยาก / เพ๊อะ = ดื่ม / ตึ = น้ำ  
มาดูวีดีโอการออกเสียงประกอบการพูดกันครับ 


     เป็นอย่างไรบ้างครับ ภาษาเขมรสุรินทร์ ในหมวดอาหาร ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ มีทั้งคำและประโยคตัวอย่างในการพูด พร้อมกับวีดีโอประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม หากวีดีโอและโพสต์นี้ผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ส่วนเพื่อนๆที่ถูกใจหรือต้องการคอมเม้นท์เพิ่มเติมสามารถคอมเม้นท์ไว้ใต้โพส์นี้ได้เลยครับ หรือสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่อง 
อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ กด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจ และอย่าลืมกดกระดิ่งเพื่อที่เพื่อนๆจะไม่พลาดคลิปต่อๆไปน่ะครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน แนะนำติชมได้ครับ









วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ใครอยู่ธัญบุรี อยากหาร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านซูชิที่รสชาติใช้ได้ ในราคาที่โดนใจ เข้ามาดูก่อนน่ะครับ



สายซูชิ สายซาชิมิ และอยู่แถวธัญบุรี ไม่ควรพลาด 

                          เปิดประเด็นมาซ่ะขนาดนี้ คิดว่าผมจะขายของไช่ไหมครับ ปล่าวเลยครับ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งนั้นครับ ผมก็สายนี้เช่นกัน วันนี้จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดู ได้ยั่วน้ำลายกันเล่นๆครับผม 
และบอกได้เลยว่า ราคานี่ หลักสิบบาทครับ 


                          
                                ความเป็นมาที่ได้มารู้จักร้านนี้ก็คือ ช่วงเดือนมิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของผมนั่นเองครับ  และวันนี้เป็นวันทำงานก็เลยไม่ได้มีเวลาไปฉลองที่ไหน คุณแฟนจึงค้นหาร้านอาหารใกล้ๆ มานำเสนอครับ  และผมสะดุดตาอยู่ 1 ร้านคือร้าน Omni Sushi อยู่แถวคลองหก ธัญบุรี ซึ่งในตอนนั้นอยากกินซาชิมิแซลมอนอยู่พอดีครับ ก็เลยตกลงปลงใจไปฉลองวันเกิดเบาๆที่ร้านนี้ครับ

                             มาร้านนี้ที่ไม่สั่งไม่ได้เลยนั่นก็คือ ซูชิครับ ราคาเริ่มต้น 10 บาทครับ มาดูซูชิว่าน่ากินขนาดไหนครับ

ซูชิน่ากิน เต็มคำ ทำสดๆ หลังจากออร์เดอร์ ไม่มีทำค้างไว้ครับ 
ดูใกล้ๆ ก็ยิ่งน่ากินไปใหญ่

                               และที่ผมติดใจเป็นที่สุดก็คือ ลาบ/ก้อย แซลมอน ครับ ลาบ/ก้อยแซลมอน อร่อยครับ ต้องลอง รสชาติจัดจ้านใช้ได้เลยครับ ใครที่ชอบแนวอีสาน แนะนำเลยครับ มีทั้งแซลมอน และทูน่าครับ แต่ที่แนะนำคือ ลาบ/ก้อน แซลมอน อร่อยรสชาติเข้ากันกับเครื่อง ครบรสลาบเลยครับ มาดูหน้าตาว่าน่าทานขนาดไหน

ลาบ / ก้อย แซลมอน สีสันน่ารับประทาน ส่วนรสชาติผมให้ ผ่าน ครับ

                                   นอกจาก ลาบ / ก้อย แซลมอนแล้ว สิ่งที่ควรจะสั่งมาทานอีกก็คือ ยำสาหร่ายนั่นเองครับ รสชาติที่บอกได้เลยว่าอร่อยไม่แพ้ร้านดังๆ หรือผมลิ้นไม่ถึงก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าผมว่าอร่อยละกันครับ และบอกได้เลยว่าผมมากินร้านนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้ว ก็สั่งทุกครั้งครับ ทั้งยำสาหร่ายและลาบ/ก้อย แซลมอน เป็นของหลักที่ผมต้องสั่งมาทานเลยทีเดียวครับ มาดูสีสันของยำสาหร่ายว่าน่ารับประทานสักแค่ไหนครับ


ยำสาหร่ายที่น่าทาน ราคาน่าคบหา รสชาติอร่อย ลิ้นผมเองครับ ที่ว่าอร่อย
                                   ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผมสั่งนั่นก็คือ ซุปมิโซะครับ แต่ รสชาติผมไม่ขอการันตีครับ เพราะผมไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนครับ เรื่องของเรื่องคือ ดูในทีวีแล้วมันไม่ค่อยน่ากิน แต่ก็กล้ากินที่ร้านนี้ครับ รสชาติออกเค็มนิดหนึ่งครับ ไม่แน่ใจว่าที่อื่นเป็นหรือเปล่า หรือรสชาติปกติเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่แน่ใจครับ แต่ก็พอทานได้ครับ มาดูซุปว่าหน้าตาเป็นอย่างไรครับ

ซุปมิโซะ
                                           ต้องบอกเลยว่าใครหาร้านอาหารญี่ปุ่น แถวธัญบุรี คลองหก สามารถไปที่ร้านนี้ได้ครับ ผมแนะนำเลยเพราะราคาทุกคนสามารถะเข้าถึงได้ครับ รสชาติ Ok เลยครับ เอาเป็นว่า ให้ชมภาพสุดท้ายละกันครับ อร่อยไม่อร่อย ดูเอาละกันครับ

เกลี้ยงทุกจาน 


                                   ก็ขอจบโพสต์รีวิวร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านซูซิ เพียงเท่านี้น่ะครับ  ใครมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำติดชม สามารถคอมเม้นต์ไว้ใต้โพสต์ได้เลยครับ หรืออยากให้รีวิวอะไร บอกมาได้เลยครับผม
ขอบคุณสำหรับทุกๆที่เข้ามาอ่านน่ะครับ ขอบคุณครับ

#ร้านอาหารญี่ปุ่นคลองหก #ร้านซูชิคลองหก #ร้านOmniSushi



วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เจ.สยาม.จัดให้ ติดตั้ง GPS วันนี้ จ่ายแค่ 11,000 บาท ฟรีค่าบริการรายปี 3 ปี


ข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการรถขนส่ง 


เจ.สยาม.จัดให้ ติดตั้ง GPS วันนี้ จ่ายแค่ 11,000 บาท ฟรีค่าบริการรายปี 3 ปี 

เพียงสั่งซื้อและติดตั้งภายใน 30 ธ.ค. 2562 นี้เท่านั้น หมดแล้วหมดเลย





มาตรการยิ่งกว่าชิมช็อปใช้ ก็มาตรการนี้แหละครับ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม แบบว่าสุดจัดปลัดบอก

                สำหรับผู้ประกอบการที่มีรถบรรทุก หรือรถโดยสารที่ต้องการ ติดตั้ง GPS และเชื่อมต่อข้อมูลเข้าระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก มาทางนี้เลยจร้า  เลือกติดตั้ง GPS กับเรา  J.SIAM จัดให้
1. ฟรีค่าบริการรายปีทันที 3 ปี
2. หนังสือรับรองการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมขนส่งทางบก 3 ปี
3. รับประกันอุปกรณ์ GPS 18 เดือน
ทุกอย่างนี้ เหมาๆ ไปเลย 11,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียบร้อยแล้ว

ซึ้อวันนี้ อุ่นใจไปเลย 3 ปีเต็ม


ลองมาคิดมูลค่าดูเล่นๆ ราคากล่อง GPS 8,900 บาท ค่าปริการรายปี ต่อ 1 ปี 3,600 บาท
ประกันอุปกรณ์เสียหาย 1,200 บาท และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่า 20,000 บาท แน่นอน ยังไงก็คุ้ม

พร้อมด้วยบริการดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง แบบ Non stop Service ไปเลย

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.jsm2mgps.com   และ  www.jsiaminternational.co.th 
โทร.061-759-2221  และ 061-760-2223 
นอกเวลาทำการโทร.081-846-6959



แสกนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม




วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รีวิวแกะกล่อง Samsung Galaxy Note10 Plus (UpToMe Review)


  UpToMe Review                     Galaxy Note10+       


           สวัสดีเพื่อนๆ ทุกๆคนนะครับ วันนี้ถือโอกาสแกะกล่องรีวิวเจ้า Galaxy Note10 Plus ครับ
เนื่องจากได้สั่งจองเครื่องที่ศูนย์ไว้และได้เครื่องมาสดๆ ถือโอกาสรีวิวเลยละกันครับ ส่วนรายละเอียดสเป็คอื่นๆนั้น ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เนื่องจากผมก็ดูรีวิวมาเยอะแยะมากมายก่อนจะตัดสินใจซื้อครับ
Note10 Plus ตัวที่ผมซื้อนี้ เป็นรุ่น แรม 12 GB และ รอม 256 GB สี Aura Glow ราคาเครื่องเปล่าตอนนี้ 37,900 ถ้วนครับ

ตัวกล่องเป็นสีดำ พิมพ์ Note10+ สีขาว และมีรูปปากกา S Pen สีออกม่วง  ดูเรียบหรู



อุปกรณ์ทั้งหมดภายในกล่อง 

มาดูตัวเครื่องกันบ้างครับ สีที่ผมซื้อคือ Aura Glow ซึ่งสีนี้น่าจะเป็นสีที่ใครหลายๆคนก็ชอบครับ สะท้อนแสงคล้ายๆ แผ่นซีดี น่าซื้อไปแปะหลังช้าง ตึงๆ โป๊ะ  มาดูด้านหน้าและด้านหลังกันเลยครับ









   ตอนแรกคิดว่าเครื่องคงหนักน่าดูครับ แต่พอได้จับและถือจริงๆแล้ว ไม่หนักเลยครับ เมื่อเทียบกับเครื่องเก่าที่ผมเคยใช้คือเบากว่าเยอะครับ ต้องบอกว่าเครื่องเก่าที่ผมใช้คือ I Phone 6S Plus ครับ ซึ่งแตกต่างกันมากครับผม ได้จับครั้งแรกรู้สึกประทับใจมากครับ และตัวเครื่องก็บางลงอย่างเห็นได้ชัดครับ แต่ถ้าเทียบกับ I Phone 6S Plus แล้ว ความบางไม่ต่างกันมากครับ ส่วนหน้าจอนั้น ยาวกว่าเห็นๆครับ 
ต่อไปมาดูอุปกรณ์ภายในกล่องกันบ้างครับ ว่ามีอะไรให้มาบ้างครับ 
ที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็น หัวชาร์จ แบบ Fast Chage 25 wat พร้อมสาย Usb Type C

หัวปากกา S pen สำรอง และตัวหนีบ
หูฟังแบบ In ear AKG สายถักด้วยน่ะครับ

กล่องคู่มือ จะมี เคสใส เข็มจิ้มซิม คู่มือไทย EN และใบรับประกันข้างในครับ


คู่มือ ไทย อังกฤษ และใบรับประกัน

การจัดวางอุปกรณ์ เสริมภายในกล่อง

         ต้องบอกเลยว่า Galaxy Note10+ นี้ กว่าผมจะตัดสินใจซื้อได้นี่ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร และคงจะใช้เครื่องนี้ไปอีกนานพอสมควรครับ ก็ตามที่ดูรีวิวและศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง ผมคิดว่ามันคงจะเหมาะกับตัวเราจริงๆครับ 
          ส่วนการรีวิวการใช้งานอย่างละเอียดนั้นรอติดตามกันนะครับ ที่ https://www.youtube.com/channel/UCFqAF-vRfZqhB_AqBwnWFJw?view_as=subscriber

สิ่งที่ผมคาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเครื่อง Note10+ มีดังนี้
1.ถ่ายภาพรีวิวต่างๆ
2.ถ่ายวีดีโอ เพราะต้องบอกเลยว่า เครื่องนี้มีกันสั่นที่ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
3.ใช้เขียน Blog นอกสถานที่ สะดวยสบายด้วยการใช้ S Pen ช่วยเขียน 
4.ใช้บันทึกไอเดีย ใหม่ๆ ได้ทันทีที่ไอเดียเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้สามารถบันทึกความคิดของผมได้ในทันที
5.ตัดต่อวีดีโอ
6.เล่นเกม ในเวลาเบื่อๆ ไม่มีไอเดีย 
7.อัดวีดีโอสอนการใช้งานโปรแกรมบนมือถือ และอัพโหลดลง Youtube

สรุปเลยว่า เพื่อนๆคนใดที่คิดว่าจะซื้อ Galaxy Note10+ เพื่อสร้างสื่อ และไอเดียต่างๆ ผมขอแนะนำว่า จัดไปครับ อย่าลังเลย มันแรงและตอบโจทย์เพื่อนๆแน่นอนครับ 

สำหรับวันนี้ก็ขอจบการแกะกล่องรีวิว Galaxy Note10+ เพียงเท่านี้ หวังว่ารีวินี้คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณครับ




MushroomBOY

                              
                  


วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ตกกุ้งแม่น้ำบางปะกง กับไต๋เปรี้ยว บ้านโพธิ์

ทริปตกกุ้งแม่น้ำบางปะกง กับไต๋เปรี้ยว บ้านโพธิ์



               สวัสดีครับเพื่อนๆ เมื่อวันที่ อาทิตย์ 18 สิงหาคม 2562  ได้ฤกษ์งามยามดี นัดกับไต๋เปรี้ยว ไต๋อารมณ์ขัน อรรยาศัยดี ของเรานั่นเอง   ซึ่งทริปตกกุ้งของผมครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาตกกุ้งที่แม่น้ำบางปะกงกับไต๋เปรี้ยว และรอบนี้ก็เตรียมความพร้อมมาพอสมควรคับ ไม่ได้หวังกับการตกกุ้งสักเท่าไหร่ครับ เน้นมาพบปะเพื่อนฝูง นั่งคุยกันบนเรือ ตกกุ้งไปด้วย คุยกันไปด้วยประมาณนั้น ทริปนี้ไปด้วยกัน 5 คนรวมกับไต๋ด้วย มี เก่ง บอล เอ็ม ไต๋เปรี้ยว และผมครับ


                 พอดีคืนก่อนผมเดินทางมานอนบ้านเพื่อนที่บางบ่อก่อน เช้าจึงได้ออกเดินทางจากบางบ่อไปบ้านโพธิ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงที่นัดหมาย  จัดแจงข้าวของ แล้วลงเรือกันเลย


ตอนลงเรือก็เฮฮาตามประสาชายหนุ่ม 555+




           หลังจากถึงหมายแรกก็ได้กุ้งตัวแรกภายในไม่กี่นาที ก็เป็นฝีมือของไต๋เปรี้ยวนั่นเอง กุ้งจะตัวโตขนาดไหนมาดูกัน

กุ้งตัวแรกเป็นกุ้งนาง ขนาดกำลังพอดี
          
            
             และอีกไม่นานเพื่อนในกลุ่มเราก็ตกกันได้เป็นตัวแรก คือเพื่อนเอ็มครับ มาดูกุ้งว่าตัวใหญ่ขนาดไหนครับ 


นั่นแหละครับ กุ้งนางตัวใหญ่พร้อมโบนัส นีบมือ จำได้ว่าเพื่อนเอ็มบอกหนีบโคตรเจ็บ

        และหลังจากเพื่อนเอ็มตกได้ ตัวต่อไปก็เป็นของไต๋เปรี้ยวอีกแล้วครับ หมานจริงๆครับ แต่ต้องบอกว่าตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายของหมายนี้ ซึ่งอากาศเริ่มร้อนเลยย้ายไปหมายอื่นครับ มาดูตัวที่ 3 กันเลยครับ



ตัวที่ 3 ของหมายแรก ได้กุ้งก้ามกรามตัวกำลังดี

มาดูบรรยากาศหมายแรกกันครับ ต้องบอกว่าเอ็ม เก่ง และบอล ยังไม่มีใครเคยลงเรือมาตกกุ้งกันแบบนี้ครับ เลยตื่นเต้นกันหน่อยครับ

บอล ถึงขั้นเหวี่ยงเบ็ดไปไกลเลยครับ สรุปคือ เบ็ดติดครับ 555+



เอ็มตั้งใจตกมาก จ้องไม่กระพิบตาเลย


เก่ง (คนกลาง) สายชงครับ ไม่เน้นตก

ใต๋เปรี้ยว สายชิว นั่งเฉยๆไว้ เดี๋ยวกุ้งก็มากิน  (ไอ้น้อง พี่ผ่านมาเยอะ)

บอลก็ได้น่ะได้กุ้งไต๋มาถ่ายรูป

ไป เปลี่ยนหมายกันดีกว่า

                    จากนั้นเราก็ได้ทำการย้ายหมายไปในที่ร่ม คือใต้ถุนท่าเรือของโรงสีนั่นเองครับ หมายนี้อยู่ยาวครับ ได้เวลาอันสมควรก็ได้ทำการติดเตาซึ่งเราได้เตรียมมาพร้อมย่างหมูรับประทานกันในเรือ ครับพร้อมเครื่องดื่มรับประทานอาหารกันตามอัธยาศัย พูดคุยกันสนุกสนาน ระหว่างนั้น เก่ง ไต๋เปรี้ยว และผมก็ตกได้อีกครับมาดูว่าตัวใหญ่ขนาดไหนครับ

หมูสามชั้นย่างอร่อยๆ ครับ 

เย้ๆๆ ของผมใหญ่สุด ว่างั้น 555+
ของเก่งก็มาครับ ตัวใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย


                ไหนๆ ก็ได้กุ้งพอประมาณแล้ว ไม่คิดว่าจะนำกลับบ้านครับเพราะเราได้เตรียมเตาและน้ำจิ้ม     ซีฟู้ดมาเรียบร้อยแล้ว ไต๋ได้ทำการนำกุ้งน็อคน้ำแข็ง และผมทำการเผาครับเตรียมรับประทานกุ้งแม่น้ำบนเรือกันได้เลยครับ

กุ้งบางส่วนเตรียมเผาครับ ว่าแต่ว่าข้างหลังยิ้มเหมือนต้องการของน่ะเอ็ม

เผากุ้งเสร็จเรียบร้อยครับ น่ารับประทานไหม


    หลังจากนั้นก็ได้กุ้งเรื่อยๆ ครับ ก็ได้ทำการเผาทานกันหมดครับ มาดูบรรยากาศระหว่างทริปนี้กันครับ

ไปๆๆ ออกเดินทาง



บอลๆๆ ข้างหลังบอลมันน้ำอะไรอ่ะ

เอ็ม ตั้งใจตกหน่อย 
นั่งรับบรรยากาศดีๆ


ยิ้มแบบนี้น่าจะโดนตัวอะไรมา


ทริปนี้ก็จบไปด้วยดี ขอบคุณครับไต๋


                     นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของทริปตกกุ้ง 4 หนุ่ม และ 1 ไต๋ ณ แม่น้ำบางปะกง ครับ ทริปนี้อาจมีภาพไม่เยอะเนื่องจากรวบรวมได้ประมานนี้ครับ โดยรวมถือว่าสนุกครับ ประทับใจกับทริปนี้มากครับ นานๆ ได้พบปะกันทีหนึ่งครับ

เพื่อนๆท่านใดสนใจจะไปตกกุ้งกับไต๋เปรี้ยวก็สามารถ Inbox เฟสบุ๊คของไต๋ได้น่ะครับผม อยู่ด้านล่างนี้เลยครับ 

Facebook ไต๋เปรี้ยว ครับ ติดต่อไต๋ได้นะครับผม




มีทริปไหนน่าสนใจ จะนำมาฝากเพื่อนๆอีกน่ะครับผม ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาชมกันน่ะครับผม
ทริปหน้าเจอกันครับ